Categories: เรื่องเสียว

เสร็จรูมเมททุกวันศุกร์

สวัสดีครับ ผมชื่อพายุ เป็นนักศึกษาวิศวะปีที่ 2 ชีวิตผมก็เหมือนนักศึกษาทั่วไป เที่ยวบ้าง กินบ้างเป็นบางครั้ง วันไหนมีเงินก็จะไปเที่ยวอ่าง หาความสุขให้ตัวเอง แต่ถ้าช่วงไหนไม่ค่อยมีเงิน ก็ต้องพึ่งหนังโป๊กันเป็นธรรมดา จริงๆแล้วชีวิตผมมันก็เหมือนกับวัยรุ่นผู้ชายอายุ 20 ปีธรรมดา ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ จนกระทั่งผมย้ายหอพักเข้ามาอยู่ที่หอพักแห่งนี้ หอพักชายล้วนที่อยู่นอกมหาลัย ผมได้เจอกับ ตี๋ เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่จะเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกับผม ที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากคณะนิเทศสาขาภาพยนตร์ เพราะอายุเท่ากันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะปรับตัวเข้าหากันได้ แต่สิ่งที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ตี๋จะเปลี่ยนชีวิตของผมไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ
วันหนึ่งผมกำลังนั่งดูหนังโป๊อยู่ในห้องน้ำ แต่ความเร่งรีบผมเลยไม่ได้ล็อคประตู ตี๋คงจะได้ยินเสียงที่ผมเปิดหนังโป๊ เขาเปิดประตูเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นสองมือของผมกำลังช่วยกันนวดคลึงอยู่ที่ลำกล้อง เห็นอย่างนั้นผมก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตี๋ค่อยๆคุกเข่าลงแล้วอมไอ้นั่นผม มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระเอกหนังโป๊เกย์ กำลังดูเพื่อนร่วมห้องใช้ปากออรัลเซ็กส์ให้ตัวเอง ยิ่งผมพยายามจะฝืน แต่ร่างกายมันกลับรู้สึกดี เหมือนถูกปรนิบัติด้วยความรัก ผมใช้มือประคองใบหน้าของเขาให้หยุดการกระทำนั้นก่อน แล้วจูงมือเขาไปต่อกันที่บนเตียง
ผมแทบไม่ต้องพูดอะไรเลย เพราะทันทีที่เอนตัวลงบนที่นอน ตี๋บรรจงใช้มือและปากในการช่วยให้ผมเสร็จ สองมืออุ่นๆกับปากที่นุ่มทำให้ผมเคลิ้มไปกับมัน ตอนนี้ไม่ต้องใช้หนังโป๊ผมก็แทบจะเสร็จอยู่แล้ว ตี๋เริ่มรุนแรงขึ้นด้วยการดูดเบาๆ ผมเลยจัดกสรกดหน้าเขาลงไปจนปากประกบอยู่กับส่วนโคน มันรู้สึกดีจริงๆ ผมอดใจไม่ได้ที่จะใช้มือจิกเบาๆที่หัวของเขา เพื่อบังคับทิศทางให้มันโดนจุดเสียวมากที่สุด ตอนนั้นเองที่ปลายลิ้นของตี๋ สัมผัสกับปลายไอ้นั่นของผม จนความเสียวพุ่งซ่านออกมาเป็นน้ำกาม ผมทำน้ำแตกใส่ในปากของรูมเมท แต่แทนที่มันจะรังเกียจ รูมเมทของผมกลับกลืนมันลงไปจนหมด นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกดี หลังจากนั้นผมกับตี๋เราต้องผลัดกันอมน้องชายกันและกันทุกวันศุกร์ เพราะไม่มีใครรู้ใจดีเท่าตี๋อีกแล้ว ทุกครั้งเรามักจะเพิ่มของเล่นใหม่ๆ ผมเคยลองห่วงรัดแบบสั่น มันสุดยอดมาก สั่นและรัดเอาไว้ตรงปลาย ส่วนตรงโคนก็ให้ตี๋ใช้มือชักว่าวให้ ทำผมน้ำแตกไปหลายรอบเลย

Article info